ร่วมงานพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

ร่วมงานพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

ร่วมพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

ร่วมพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ผู้อำนวยการโรงเรียนนำครู นักเรียน ร่วมพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ณ สำนักงานเทศบาลตำบลช่อแฮ วันที่ 5ธันวาคม 2553 รายละเอียดเพิ่มเติม http://www.thai-school.net/wanarat

ร่วมพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา

ร่วมพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา
ผู้อำนวยการโรงเรียน พร้อมด้วยนางบัวฉิม โสภา นางสาวลัดดาวัลย์ วันสนุก และนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 - 6 เข้าร่วมงานพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 83 พรรษา 5 ธันวาคม 2553 ร่วมพิธีลงนามถวายพระพร สดุดีเฉลิมพระเกียรติ และพิธีถวายเครื่องราชสักการะ ณ สำนักงานเทศบาลตำบลช่อแฮ

นายนพรัตน์ ส่วนบุญ รับโล่ประกาศเกียรติคุณ "ผู้ทำความดีเพื่อทดแทนคุณแผ่นดิน"

นายนพรัตน์ ส่วนบุญ  รับโล่ประกาศเกียรติคุณ "ผู้ทำความดีเพื่อทดแทนคุณแผ่นดิน"
นายนพรัตน์ ส่วนบุญ ผู้อำนวยการโรงเรียน รับโล่ประกาศเกียรติคุณ "ผู้ทำความดีเพื่อทดแทนคุณแผ่นดิน" สาขา ทางด้านการศึกษา ประจำปี พุทธศักราช 2553 โดยหนังสือพิมพ์ข่าวผู้นำ ซึ่งมี รศ.ดร.พิชัย สราญรมย์ ผู้ช่วยอธิบดี มหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี เป็นประธานในพิธี เนื่องในโอกาสครบรอบปีที่ 10 วันเสาร์ที่ 9 ตุลาคม 2553 ณ ห้องราชา โรงแรมรัตนโกสินทร์ กรุงเทพมหานคร

นายนพรัตน์ ส่วนบุญ รับโล่ประกาศเกียรติคุณ "ผู้ทำความดีเพื่อทดแทนคุณแผ่นดิน"

นายนพรัตน์ ส่วนบุญ  รับโล่ประกาศเกียรติคุณ "ผู้ทำความดีเพื่อทดแทนคุณแผ่นดิน"
นายนพรัตน์ ส่วนบุญ ผู้อำนวยการโรงเรียน รับโล่ประกาศเกียรติคุณ "ผู้ทำความดีเพื่อทดแทนคุณแผ่นดิน" สาขา ทางด้านการศึกษา ประจำปี พุทธศักราช 2553 โดยหนังสือพิมพ์ข่าวผู้นำ โดยมี รศ.ดร.พิชัย สราญรมย์ ผู้ช่วยอธิบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี เป็นประธานในพิธี เนื่องในโอกาสครบรอบปีที่ 10 วันเสาร์ที่ 9 ตุลาคม 2553 ณ ห้องราชา โรงแรมรัตนโกสินทร์ กรุงเทพมหานคร

นายนพรัตน์ ส่วนบุญ รับโล่"เป็นคนดีศรีพุทธศาสน์"

นายนพรัตน์ ส่วนบุญ รับโล่"เป็นคนดีศรีพุทธศาสน์"
นายนพรัตน์ ส่วนบุญ รับโล่ "เป็นคนดีศรีพุทธศาสน์" โดย มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย วิทยาเขตแพร่ ร่วมกับคณะสงฆ์จังหวัดแพร่ มอบโล่นี้ไว้เพื่อแสดงว่า นายนพรัตน์ ส่วนบุญ ผู้บำเพ็ญคุณประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนา สมควรได้รับการยกย่องเชิดชูเกียรติ "เป็นคนดีศรีพุทธศาสน์" โดยมีรองผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ เป็นประธานในพิธีมอบโล่ เป็นคนดีศรีพุทธศาสน์ เนื่องในวันวิสาขบูชาวันสำคัญของโลก โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อจรรโลงพระพุทธศาสนา เพื่อเป็นกำลังใจแก่ผู้ที่ทำความดี และเพื่อเผยแผ่พระพุทธศาสนา วันที่ 26 พฤษภาคม 2553 ณ หอประชุมสิริราชาณุสรณ์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย วิทยาเขตแพร่

รับโล่"เป็นคนดีศรีพุทธศาสน์"ประจำปี 2553

รับโล่"เป็นคนดีศรีพุทธศาสน์"ประจำปี 2553
นายนพรัตน์ ส่วนบุญ รับโล่ "เป็นคนดีศรีพุทธศาสน์" โดย มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย วิทยาเขตแพร่ ร่วมกับคณะสงฆ์จังหวัดแพร่ มอบโล่นี้ไว้เพื่อแสดงว่า นายนพรัตน์ ส่วนบุญ ผู้บำเพ็ญคุณประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนา สมควรได้รับการยกย่องเชิดชูเกียรติ "เป็นคนดีศรีพุทธศาสน์" โดยมีรองผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ เป็นประธานในพิธีมอบโล่ เป็นคนดีศรีพุทธศาสน์ เนื่องในวันวิสาขบูชาวันสำคัญของโลก โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อจรรโลงพระพุทธศาสนา เพื่อเป็นกำลังใจแก่ผู้ที่ทำความดี และเพื่อเผยแผ่พระพุทธศาสนา วันที่ 26 พฤษภาคม 2553 ณ หอประชุมสิริราชาณุสรณ์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย วิทยาเขตแพร่

รับโล่รางวัลเกียรติยศ "เพชรเสมา" สาขาผู้บริหารสถานศึกษา ดีเด่น ประจำปี 2552

รับโล่รางวัลเกียรติยศ "เพชรเสมา" สาขาผู้บริหารสถานศึกษา ดีเด่น ประจำปี 2552
นายนพรัตน์ ส่วนบุญ รับโล่รางวัลเกียรติยศ "เพชรเสมา" สาขาผู้บริหารสถานศึกษา ดีเด่น ประจำปี 2552 จาก ดร.สมชาย เทพแสง นักวิชาการ ผู้ทรงคุณวุฒิ กระทรวงศึกษาธิการ โดยนิตยสารศูนย์ข่าววิทยุและโทรทัศน์ ร่วมกับสโมสรนักบริหาร และหนังสือพิมพ์ตำรวจพัฒนา จัดพิธีมอบโล่รางวัลเกียรติยศ "เพชรเสมา" ณ ห้องฉัตรทอง สโมสรทหารบก(ส่วนกลาง)เทเวศร์ วันที่ 3 เมษายน 2553 โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อเป็นกำลังใจให้ผู้ปฏิบัติหน้าที่เป็นแบบอย่างที่ดีแก่อนุชนรุ่นหลังสืบไป เพื่อยกย่องผู้ที่ทำประโยชน์ทางด้านการศึกษาและพัฒนาการศึกษา เพื่อสนับสนุนบุคคลที่ปฏิบัติตนเป็นตัวอย่างแก่บุคคลทั่วไป เพื่อส่งเสริมบุคลากรของชาติที่สร้างผลงานดีเด่นทั้งในอดีตและปัจจุบัน เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์ผลงานและคุณงามความดีที่ท่านได้ปฏิบัติมาโดยตลอด

วันอังคารที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

ประเพณีลอยกระทง

ประเพณีลอยกระทง
ประเพณีลอยกระทงนั้นมีมาแต่โบราณ โดยมีคติความเชื่อหลายอย่าง เช่น เชื่อว่าเป็นการบูชาและขอขมาแม่พระคงคา เป็นการสะเดาะเคราะห์ เป็นการบูชาพระเจ้าในศาสนาพราหมณ์ หรือเป็นการบูชารอยพระพุทธบาท เป็นต้น การลอยกระทงนิยมทำกันในวันเพ็ญ เดือน 12 ของทุก ๆ ปี อันเป็นช่วงที่น้ำในแม่น้ำลำคลองขึ้นสูงและอากาศเริ่มเย็นลง ตามพระราชนิพนธ์พระราชพิธีสิบสองเดือน และตำรับท้าวศรีจุฬาลักษณ์ได้กล่าวว่า นางนพมาศ หรือท้าวศรีจุฬาลักษณ์ พระสนมเอกในพระร่วงเจ้าแห่งกรุงสุโขทัย เป็นผู้ริเริ่มประดิษฐ์กระทงสำหรับลอยประทีปเป็นรูปดอกบัวบาน ซึ่งเป็น กระทงรูปดอกบัว และรูปต่างๆถวาย พระร่วง ทรงให้ลอยกระทงตามสายน้ำไหล ในหนังสือ ตำรับท้าวศรีจุฬาลักษณ์ พระร่วงตรัสว่า"แต่นี่สืบไปเบื้องหน้า โดยลำดับกษัตริย์ในสยามประเทศ ถึงกาลกำหนดนักขัตฤกษ์วันเพ็ญเดือน 12 ให้ทำโคมลอย เป็นรูปดอกบัวอุทิศสักการบูชาพระพุทธบาท นัมฆทานที ตราบเท่ากัลปาวสาน"ซึ่งคนทั่วไปนิยมทำตามสืบต่อมา นอกจากนั้นในศิลาจารึกหลักที่ 1 ยังได้กล่าวถึง งานเผาเทียน เล่นไฟ ของกรุงสุโขทัยไว้ด้วยว่า เป็นงานที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของกรุงสุโขทัย ทำให้ผู้รู้ทั้งหลายสันนิษฐานต้องตรงกันว่า งานดังกล่าวน่าจะเป็นงานลอยกระทงอย่างแน่นอนนางนพมาศ สนมเอกของพระร่วงเจ้ากรุงสุโขทัย
ครั้นถึงสมัยรัตนโกสินทร์ มีการทำกระทงขนาดใหญ่และสวยงาม ดังพระราชพงศาวดารกรุงรัตนโกสินทร์ ของเจ้าพระยาทิพาราชวงศ์ กล่าวไว้ว่า "ครั้นมาถึงเดือน 12 ขึ้น 14 ค่ำ 15 ค่ำ แรมค่ำหนึ่งพิธีจองเปรียงนั้น เดิมได้โปรดให้ขอแรง พระบรมวงศานุวงศ์ฝ่ายหน้า ฝ่ายใน และข้าราชการที่มีกำลังพาหนะมาทำกระทงใหญ่ ผู้ถูกเกณฑ์ต่อเป็นถังบ้าง ทำเป็นแพหยวกบ้าง กว้าง 8 ศอกบ้าง 9 ศอกบ้าง กระทงสูงตลอดยอด 10 ศอก 11 ศอก ทำประกวดประขันกันต่างๆ ทำอย่างเขาพระสุเมรุทวีปทั้ง 4 บ้าง และทำเป็นกระจาดชั้นๆบ้าง วิจิตรไปด้วยเครื่องสด คนทำก็นับร้อย คิดในการลงทุนทำกระทงทั้งค่าเลี้ยงคนและพระช่าง เบ็ดเสร็จก็ถึง 20 ชั่งบ้าง ย่อมกว่า 20 ชั่งบ้าง" ปัจจุบันประเพณีลอยกระทง มีการจัดงานกันแทบทุกจังหวัด ถือเป็นงานประจำปีที่สำคัญ โดยเฉพาะที่จังหวัดเชียงใหม่มีการจัดขบวนแห่กระทงใหญ ่ กระทงเล็ก มีการประกวดกระทง และประกวดธิดางามประจำกระทงด้วย ส่วนการลอยโคม ชาวบ้านทางภาคเหนือและภาคอีสานยังนิยมทำกัน ชาวบ้านจะนำกระดาษ มาทำเป็นโคมขนาดใหญ่สีต่างๆ ถ้าลอยตอนกลางวัน จะทำให้ โคมลอยโดยใช้ควันไฟ ถ้าเป็นเวลากลางคืน ก็จะใช้คบจุดที่ปากโคม ให้ควันพุ่งเข้าในโคม ทำให้ลอยไปตามกระแสลมหนาว เวลากลางคืนแลเห็นแสงไฟโคมบนท้องฟ้า พร้อมกับแสงจันทร์และดวงดาวสวยงามมากทีเดียว
กำหนดวันลอยกระทงวันลอยกระทงของทุกปีจะตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12 ตามปฏิทินจันทรคติไทย หรือถ้าเป็นปฏิทินจันทรคติล้านนาจะตรงกับเดือนยี่ และหากเป็นปฏิทินสุริยคติจะราวเดือนพฤศจิกายน ซึ่งเดือน 12 นี้เป็นช่วงต้นฤดูหนาว อากาศจึงเย็นสบาย และอยู่ในช่วงฤดูน้ำหลาก มีน้ำขี้นเต็มฝั่ง ทำให้เห็นสายน้ำอย่างชัดเจน อีกทั้งวันขึ้น 15 ค่ำ เป็นวันที่พระจันทร์เต็มดวง ทำให้สามารถเห็นแม่น้ำที่มีแสงจันทร์ส่องกระทบลงมา เป็นภาพที่ดูงดงามเหมาะแก่การชมเป็นอย่างยิ่ง

ประเพณีลอยกระทงนั้นประเพณีลอยกระทงนั้น ไม่มีหลักฐานระบุแน่ชัดว่าเริ่มตั้งแต่เมื่อใด แต่เชื่อว่าประเพณีนี้ได้สืบต่อกันมายาวนานตั้งแต่สมัยสุโขทัย โดยในรัชสมัยพ่อขุนรามคำแหง เรียกประเพณีลอยกระทงนี้ว่า "พิธีจองเปรียญ" หรือ "การลอยพระประทีป" และมีหลักฐานจากศิลาจารึกหลักที่ 1 กล่าวถึงงานเผาเทียนเล่นไฟว่าเป็นงานรื่นเริงที่ใหญ่ที่สุดของกรุงสุโขทัย ทำให้เชื่อกันว่างานดังกล่าวน่าจะเป็นงานลอยกระทงอย่างแน่นอน ในสมัยก่อนนั้นพิธีลอยกระทงจะเป็นการลอยโคม โดยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ได้ทรงสันนิษฐานว่า พิธีลอยกระทงเป็นพิธีของพราหมณ์ จัดขึ้นเพื่อบูชาเทพเจ้า 3 องค์ คือ พระอิศวร พระนารายณ์ และพระพรหม ต่อมาได้นำพระพุทธศาสนาเข้าไปเกี่ยวข้อง จึงให้มีการชักโคม เพื่อบูชาพระบรมสารีริกธาตุ และลอยโคมเพื่อบูชารอยพระบาทของพระพุทธเจ้า ก่อนที่นางนพมาศ หรือ ท้าวศรีจุฬาลักษณ์ สนมเอกของพระร่วงจะคิดค้นประดิษฐ์กระทงดอกบัวขึ้นเป็นคนแรกแทนการลอยโคม ดังปรากฎในหนังสือนางนพมาศที่ว่า "ครั้นวันเพ็ญเดือน 12 ข้าน้อยได้กระทำโคมลอย คิดตกแต่งให้งามประหลาดกว่าโคมสนมกำนัลทั้งปวงจึงเลือกผกาเกษรสีต่างๆ มาประดับเป็นรูปกระมุทกลีบบานรับแสงจันทร์ใหญ่ประมาณเท่ากงระแทะ ล้วนแต่พรรณดอกไม้ซ้อนสีสลับให้ป็นลวดลาย..." เมื่อสมเด็จพระร่วงเจ้าได้เสด็จฯ ทางชลมารค ทอดพระเนตรกระทงของนางนพมาศก็ทรงพอพระราชหฤทัย จึงโปรดให้ถือเป็นเยี่ยงอย่าง และให้จัดประเพณีลอยกระทงขึ้นเป็นประจำทุกปี โดยให้ใช้กระทงดอกบัวแทนโคมลอย ดังพระราชดำรัสที่ว่า "ตั้งแต่นี้สืบไปเบื้องหน้า โดยลำดับกษัตริย์ในสยามประเทศถึงกาลกำหนดนักขัตตฤกษ์วันเพ็ญเดือน 12 ให้ทำโคมลอยเป็นรูปดอกบัว อุทิศสักการบูชาพระพุทธบาทนัมมทานทีตราบเท่ากัลปาวสาน" พิธีลอยกระทงจึงเปลี่ยนรูปแบบตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
ประเพณีลอยกระทงสืบต่อกันเรื่อยมา จนถึงกรุงรัตนโกสินทร์ตอนต้น สมัยรัชกาลที่ 1 ถึง รัชกาลที่ 3 พระบรมวงศานุวงศ์ตลอดจนขุนนางนิยมประดิษฐ์กระทงใหญ่เพื่อประกวดประชันกัน ซึ่งต้องใช้แรงคนและเงินจำนวนมาก พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 4 ทรงเห็นว่าเป็นการสิ้นเปลือง จึงโปรดให้ยกเลิกการประดิษฐ์กระทงใหญ่แข่งขัน และโปรดให้พระบรมวงศานุวงศ์ทำเรือลอยประทีปถวายองค์ละลำแทนกระทงใหญ่ และเรียกชื่อว่า "เรือลอยประทีป" ต่อมาในรัชกาลที่ 5 และรัชกาลที่ 6 ได้ทรงฟื้นฟูพระราชพิธีนี้ขึ้นมาอีกครั้ง ปัจจุบันการลอยพระประทีปของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงกระทำเป็นการส่วนพระองค์ตามพระราชอัธยาศัย
ความเชื่อของประเพณีลอยกระทง
1.เพื่อแสดงความสำนึกถึงบุญคุณของแม่น้ำที่ให้เราได้อาศัยน้ำกิน น้ำใช้ ตลอดจนเป็นการขอขมาต่อพระแม่คงคา ที่ได้ทิ้งสิ่งปฏิกูลต่างๆ ลงไปในน้ำ อันเป็นสาเหตุให้แหล่งน้ำไม่สะอาด
2.เพื่อเป็นการสักการะรอยพระพุทธบาทนัมมทานที เมื่อคราวที่พระพุทธเจ้าเสด็จไปแสดงธรรมโปรดในนาคพิภพ และได้ทรงประทับรอยพระบาทไว้บนหาดทรายแม่น้ำนัมมทานที ซึ่งเป็นแม่น้ำสายหนึ่งอยู่ในแคว้นทักขิณาบถของประเทศอินเดีย ปัจจุบันเรียกว่าแม่น้ำเนรพุทท
3.เพื่อเป็นการสะเดาะเคราะห์ เพราะการลอยกระทงเปรียบเหมือนการลอยความทุกข์ ความโศกเศร้า โรคภัยไข้เจ็บ และสิ่งไม่ดีต่างๆ ให้ลอยตามแม่น้ำไปกับกระทง คล้ายกับพิธีลอยบาปของพราหมณ์
4.เพื่อเป็นการบูชาพระอุปคุต ที่ชาวไทยภาคเหนือให้ความเคารพ ซึ่งบำเพ็ญเพียรบริกรรมคาถาอยู่ในท้องทะเลลึกหรือสะดือทะเล โดยมีตำนานเล่าว่าพระอุปคุตเป็นพระมหาเถระรูปหนึ่งที่มีอิทธิฤทธิ์มาก สามารถปราบพญามารได้
5.เพื่อรักษาขนบธรรมเนียมของไทยไว้มิให้สูญหายไปตามกาลเวลา และยังเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวให้เกิดขึ้นทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ
6.เพื่อความบันเทิงเริงใจ เนื่องจากการลอยกระทงเป็นการนัดพบปะสังสรรค์กันในหมู่ผู้ไปร่วมงาน
7.เพื่อส่งเสริมงานฝีมือและความคิดสร้างสรรค์ เพราะเมื่อมีเทศกาลลอยกระทง มักจะมีการประกวดกระทงแข่งกัน ทำให้ผู้เข้าร่วมได้เกิดความคิดแปลกใหม่ และยังรักษาภูมิปัญหาพื้นบ้านไว้อีกด้วย

เพลง รำวงลอยกระทง วันเพ็ญเดือนสิบสอง น้ำนองเต็มตลิ่ง เราทั้งหลายชายหญิง สนุกกันจริง วันลอยกระทง ลอย ลอยกระทง ลอย ลอยกระทง ลอยกระทงกันแล้ว ขอเชิญน้องแก้วออกมารำวง รำวงวันลอยกระทง รำวงวันลอยกระทง บุญจะส่งให้เราสุขใจ บุญจะส่งให้เราสุขใจ วันเพ็ญเดือนสิบสอง น้ำนองเต็มตลิ่ง เราทั้งหลายชายหญิง สนุกกันจริง วันลอยกระทง ลอย ลอยกระทง ลอย ลอยกระทง ลอยกระทงกันแล้ว ขอเชิญน้องแก้วออกมารำวง รำวงวันลอยกระทง รำวงวันลอยกระทง บุญจะส่งให้เราสุขใจ บุญจะส่งให้เราสุขใจ

วันอังคารที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2551

โรงเรียนแสนสุข"คนไทยไร้พุง"

กรมอนามัยขอความร่วมมือในการพัฒนาสุขภาพนักเรียนโดยให้ปลอดน้ำอัดลม งดจำหน่ายขนมกรุบกรอบ อาหารและเครื่องดื่มที่มีปริมาณน้ำตาลมาก โดย สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข และสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ได้มีแนวคิดว่าควรมีนโยบายส่งเสริมสุขภาพนักเรียนให้ยั่งยืน โดยสถานศึกษาทุกแห่งงดจำหน่ายน้ำอัดลม ขนมกรุบกรอบ อาหารและน้ำที่ปรุงรสด้วยปริมาณน้ำตาลมาก
ปัจจุบันปัญหาภาวะโภชนาการเกินหรืออ้วนในเด็กปฐมวัย และเด็กวัยเรียนเพิ่มมากขึ้นอย่างชัดเจน ข้อมูลจากกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข พบว่าในระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมา รายงานว่าเด็กไทยมีภาวะน้ำหนักเกินเพิ่มมากขึ้นเป็น 2 เท่า และข้อมูลกระทรวงศึกษาธิการ รายงานว่านักเรียนประถมศึกษาเป็นโรคอ้วนถึงร้อยละ 30 การออกกำลังกายลดลงจากร้อยละ 81 เหลือร้อยละ59 และมีการศึกษาพบว่าเด็กที่ปวดฟันจะไม่มีความสุขและรู้สึกไม่มีสมาธิในการเรียน ปัญหาสุขภาพเด็กจึงมีสาเหตุหลักส่วนหนึ่งมาจาก การบริโภคอาหารประเภทแป้ง ไขมัน และน้ำตาลมากเกินควร และออกกำลังกายน้อยลง
ในการสัมมนานักวิชาการและผู้บริหารโรงเรียนของ กทม.จัดโดยมูลนิธิสาธารณสุขแห่งชาติ นักวิชาการและผู้บริหาร ได้เสนอแนะนโยบายและมาตรการโรงเรียนเพื่อป้องกันภาวะโภชนาการเกินในเด็ก 4 ข้อคือ
1.มาตรการลด/งดจำหน่ายน้ำอัดลมในโรงเรียน และจัดหาน้ำเปล่าที่สะอาดแก่เด็กนักเรียน
2.มาตรการลด/งดจำหน่ายขนมกรุบกรอบในโรงเรียน
3.มาตรกรจัดอาหารและสิ่งแวดล้อมที่เหมาะสมในโรงเรียน
4.มาตรการเพิ่มกิจกรรมทางกายแก่เด็กนักเรียน
ที่มากองทันตสาธารณสุข กรมอนามัย

วันอังคารที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2551

ประเพณีวันออกพรรษา และ ประเพณีตักบาตรเทโวโรหณะ

ประเพณีวันออกพรรษา
วันออกพรรษาเป็นวันสิ้นสุดการจำพรรษาของพระภิกษุสงฆ์ที่ อยู่ร่วมกันในวัดหรือสถานที่ซึ่งอธิษฐานเข้าพรรษาตลอดระยะ เวลา 3 เดือนในวันนี้พระสงฆ์จะประกอบพิธีทำสังฆกรรมซึ่งเรียก กันว่า "วันมหาปวารณา" คือเป็นวันที่พระภิกษุทุกรูป จะอนุญาตให้ว่ากล่าวตักเตือนกันได้ ในเรื่องราวเกี่ยวกับความ ประพฤติต่างๆ นับตั้งแต่พระภิกษุทุกรูปจะอนุญาต ให้ว่ากล่าว ตักเตือนกันได้ในเรื่องราวเกี่ยวกับความประพฤติต่างๆนับตั้งแต่ พระเถระ ได้แก่พระภิกษุผู้มีอาวุโสสูงลงมาจะสามารถว่ากล่าว ตัก เตือนหรือเปิดโอกาสให้ซักถามข้อสงสัยซึ่งกันและกัน
ประเพณีตักบาตรเทโวโรหณะ
ประเพณีตักบาตรเทโวโรหณะ ตามพุทธตำนานกล่าวว่าพระพุทธองค์เสด็จจากมนุษย์โลก ไปแสดงธรรมโปรดพุทธมารดาที่สวรรค์ชั้นดาวดึงส์ เมื่อสิ้นสุด ครบพรรษา พระองค์จึงเสด็จกลับมนุษย์โลกในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11 ทางบันไดที่พระอินทร์นิมิตถวาย ประกอบด้วยบันได เงิน บันไดทอง บันไดแก้ว มีพระพรหมเทวดามาส่งเสด็จ การเสด็จลงจากเทวโลกของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ตามตำนานเล่าว่า เมื่อพระพุทธเจ้าตรัสรู้อนุตรสัมมาสัมโพธิญาณแล้ว ได้เสด็จไปประกาศพระศาสนาในแคว้นทั่วชมพูทวีป คือ ประเทศอินเดีย เวลานี้ เริ่มตั้งแต่เมืองราชคฤห์ เมืองพารณาสี เมืองสาวัตถี และเมืองกบิลพัสดุ์ ซึ่งเป็นราชปิตุภูมิของพระองค์ ทรงเทศนาโปรดพระเจ้าสุทโธทนะ พระพุทธบิดา พระนางมหาปชาบดีโคตมี พระนางยโสธราพิมพา และราหุลราชกุมาร ตลอดถึงพระประยูรญาติทั้งหลาย ให้บรรลุมรรคผลตามสมควรแก่อุปนิสัยของตนแล้ว พระองค์ทรงรำลึกถึงพระนางสิริมหามายา ซึ่งได้สิ้นพระชนม์หลังจากพระองค์ประสูติได้7 วัน พระองค์ทรงดำริที่จะสนองคุณพระพุทธมารดา ซึ่งทรงพิจารณาว่ามีพระคุณมากมายยิ่งนัก จะหาอะไรเปรียบปานมิได้ ทรงวินิจฉัยโดยรอบคอบแล้ว ทรงเห็นว่ามีสิ่งเดียวเท่านั้นที่จะสนองคุณพระพุทธมารดา เป็นการใช้หนี้ค่าน้ำนมให้คู่ควรกันได้ นั่นคือ พระอภิธรรม ฉะนั้นในพรรษาที่ 7 นับแต่ปีที่ตรัสรู้ พระพุทธองค์จึงได้เสด็จขึ้นไปจำพรรษาบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ เทศนาพระอภิธรรมปิฎกโปรดพระพุทธมารดาอยู่หนึ่งพรรษา ครั้นออกพรรษาแล้ววันแรม 1 ค่ำ เดือน 11 พระพุทธเจ้าจึงเสด็จจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์มาประทับที่เมืองสังกัสสะ มีประชาชนไปเฝ้าพระพุทธองค์ เพื่อทำบุญตักบาตรอย่างหนาแน่น ด้วยเหตุนี้ชาวพุทธจึงถือว่า วันแรม 1 ค่ำ เดือน 11 เป็นวันคล้ายวันที่พระพุทธเจ้าเสด็จจากเทวโลกลงมาสู่เมืองมนุษย์ จึงนิยมตักบาตรกันเป็นพิเศษ จนเป็นประเพณีสืบต่อกันมาจนถึงทุกวันนี้ ดูเพิ่มเติมได้ที่ http://www.thai-school.net/wanarat

วันศุกร์ที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2551

กิจกรรมเดิน-วิ่งธงพระราชทาน

ความเป็นมาของธงพระราชทาน ธงสัญลักษณ์โครงการ "จากวันแม่ถึงวันพ่อ 116 วัน สร้างสามัคคี"
สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จฯ เป็นองค์ประธานในพิธีพระราชทานธงสัญลักษณ์โครงการ "จากวันแม่ถึงวันพ่อ 116 วัน สร้างสามัคคี" เพื่อนำไปส่งมอบต่อในกิจกรรมเดิน-วิ่ง เฉลิมพระเกียรติฯ วันนี้ (30 ส.ค.) เวลา 15.00 น. ณ อาคารใหม่ สวนอัมพร สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วยพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายา ในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เป็นองค์ประธานในพิธีพระราชทานธงสัญลักษณ์โครงการ “จากวันแม่ถึงวันพ่อ 116 วัน สร้างสามัคคี” เพื่อนำไปส่งมอบต่อในกิจกรรมเดิน-วิ่ง เฉลิมพระเกียรติฯ หนึ่งกิจกรรมในโครงการ “จากวันแม่ถึงวันพ่อ 116 วัน สร้างสามัคคี” ซึ่งสำนักนายกรัฐมนตรีและมูลนิธิโทรทัศน์เฉลิมพระเกียรติผ่านดาวเทียม ร่วมกันจัดขึ้น"จากวันแม่ถึงวันพ่อ 116 วัน สร้างสามัคคี"
ผู้อำนวยการโรงเรียน นำวงดุริยางค์ของโรงเรียน นำขบวนเดิน-วิ่ง เฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในกิจกรรม เดิน-วิง ธงพระราชทาน "จากวันแม่ถึงวันพ่อ 116 วัน สร้างสามัคคี" และนำนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่5-6 จำนวน 6 คน ในการแสดงจินตลีลา ประกอบเพลงพ่อแห่งแผ่นดิน บนเวที ในการฉลองธงพระราชทาน กิจกรรมเดิน-วิ่ง ธงพระราชทานจากวันแม่ถึงวันพ่อ 116 วันสร้างสามัคคี ณ สนามกีฬาเทศบาลตำบลช่อแฮ 19กันยายน2551

วันเสาร์ที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2551

ร่วมจัดนิทรรศการพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวกับมรดกของแผ่นดิน

นายนพรัตน์ ส่วนบุญ ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านป่าแดง (วันรัตตวิทยา) คุณครูวีณารัตน์ พรมมา นำนักเรียน ร่วมจัดนิทรรศการพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวกับมรดกของแผ่นดิน ในการเข้าร่วมการแข่งขันการแสดงจินตลีลาประกอบเพลง พ่อแห่งแผ่นดิน และร่วมจัดนิทรรศการแสดงผลงานการแข่งขันการวาดภาพ ที่ห้างมาร์คโฟร์พลาซ่า ในวันที่ 6 กันยายน 2551 ซึ่งจัดโดยสภาวัฒนธรรมจังหวัดแพร่

ผู้เข้าร่วมแข่งขันการแสดงจินตลีลาประกอบเพลง พ่อแห่งผ่นดิน ประกอบด้วย
1.เด็กหญิงจุฑาทิพย์ วังตา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6
2.เหญิงตันหยง ยอดอ้อย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5
3.เด็กหญิงนิภาพร มุ้งตุ้ย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5
4.เด็กหญิงศรัณรัตน์ จิโน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5
5.เด็กหญิงวิไลพร กาธาตุ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5
6.เด็กหญิงสุนิตา ยอดมณีวรรณ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5
ผู้ควบคุม/ผู้ฝึกสอน คุณครูวีณารัตน์ พรมมา
ผลการแข่งขัน ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2
ผู้เข้าร่วมการจัดนิทรรศการการวาดภาพและร่วมจัดนิทรรศการพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวกับมรดกของแผ่นดิน
1.เด็กชายเกรียงไกร ฉาใจ
2.เด็กชายณัฐวัฒน์ ฉาใจ
ผู้ฝึกสอนคุณครูวีณารัตน์ พรมมา
ผลการแข่งขัน ได้รับรางวัลดังนี้
1.เด็กชายเกรียงไกร ฉาใจ ได้รับรางวัล รองชนะเลิศอันดับ 1 ระดับช่วงชั้นที่ 1

2.เด็กชายณัฐวัฒน์ ฉาใจ ได้รับรางวัล ชมเชย ระดับช่วงชั้นที่ 2

รายละเอียดเพิ่มเติม ดูได้ที่ www.thai-school.net/wanarat

วันพุธที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2551

สารประชาสัมพันธ์ รางวัล และเกียรติบัตรที่ได้รับ โล่รางวัลชนะเลิศโรงเรียนต้นแบบ การจัดการกล่องเครื่องดื่มยูเอชทีอย่างยั่งยืน (School Model Winner) โรงเรียนเข้าร่วมโครงการ “เด็กไทยหัวใจรีไซเคิล”โดยบริษัทเต็ดตราแพ้ค(ไทย)จำกัด ร่วมกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และบริษัทแก้วกรุงไทย จำกัด ได้จัดประกวด “โรงเรียนต้นแบบการจัดการกล่องเครื่องดื่มยูเอชทีอย่างยั่งยืน” เพื่อส่งเสริมให้เด็กและเยาวชนในโรงเรียนได้เห็นคุณค่าของการ “แกะ –ล้าง-เก็บ” กล่องเครื่องดื่มยูเอชที และรวบรวมส่งไปยังร้านรับซื้อของเก่า เพื่อนำไปรีไซเคิลอย่างเป็นระบบและมีประสิทธิภาพ รับรางวัลในงานวันสิ่งแวดล้อมโลก ในวันที่ 5 มิถุนายน 2551ที่ อิมแพค เมืองทองธานี ผู้รับผิดชอบโครงการ นางวีณารัตน์ พรมมา เกียรติบัตรโครงการคุ้มครองผู้บริโภคด้าน สาธารณสุขในสถานศึกษา (คบส.โรงเรียน, อย.น้อย) ในการเข้าร่วมโครงการคุ้มครองผู้บริโภคด้าน สาธารณสุขในสถานศึกษา (คบส.โรงเรียน,อย.น้อย) ตั้งแต่ปีการศึกษา 2546-ปัจจุบัน โรงเรียนได้รับเกียรติบัตร และมีผลการดำเนินงาน ดังนี้ ปีการศึกษา 2546 วันที่ 10 พฤษภาคม 2547 ได้รับเกียรติบัตร จาก นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดแพร่ มีผลการดำเนินงาน อยู่ใน ระดับ ดีมาก ปีการศึกษา 2548 วันที่ 1 พฤษภาคม 2549 ได้รับเกียรติบัตร จาก ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ มีผลการดำเนินงาน อยู่ใน ระดับ ดี ปีการศึกษา 2549 วันที่ 1 มีนาคม 2550 ได้รับเกียรติบัตร จาก นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดแพร่ มีผลการดำเนินงาน อยู่ใน ระดับ ดีมาก ปีการศึกษา 2550 ในวันที่ 1พฤษภาคม 2550 ได้รับเกียรติบัตร จาก นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดแพร่ มีผลการดำเนินงาน อยู่ใน ระดับ ดีเยี่ยม เกียรติบัตรรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 โครงการธนาคารขยะรีไซเคิล โรงเรียนเข้าร่วมการประกวดโครงการธนาคารขยะรีไซเคิล โดยกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม ร่วมกับ สถาบันการจัดการบรรจุภัณฑ์เพื่อสิ่งแวดล้อม สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยและบริษัทบางกอกกล๊าส จำกัด ในการประกวดธนาคารขยะรีไซเคิลของ สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม จังหวัดแพร่ รับรางวัลในวันสิ่งแวดล้อมโลก 5 มิถุนายน 2551 ที่ สวนสุขภาพเฉลิมพระเกียรติ ร.9 ตำบลในเวียง อำเภอเมืองแพร่ จังหวัดแพร่ ผู้รับผิดชอบโครงการ นางวีณารัตน์ พรมมา โรงเรียนได้รับการรับรองมาตรฐานการศึกษา โรงเรียนได้รับการรับรองมาตรฐานการศึกษาจาก สำนักรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (องค์การมหาชน) ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน ด้านปฐมวัย และประถมศึกษา ในการประเมินคุณภาพ ภายนอกในรอบที่ 2 ตั้งแต่วันที่ 30 สิงหาคม 2550 เป็นต้นมาโดยได้ผ่านการประเมินคุณภาพ ในระดับ ดี เกียรติบัตรชนะเลิศการแข่งขันสวดมนต์หมู่ทำนองสรภัญญะ โรงเรียนได้นำนักเรียนเข้ากิจกรรมโครงการ แข่งขันสวดมนต์หมู่ทำนองสรภัญญะ ของสำนักงานเทศบาลตำบลช่อแฮ ที่วัดพระธาตุช่อแฮ พระอารามหลวง ประจำปีการศึกษา 2551ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 เกียรติบัตรชนะเลิศการแข่งขันสวดมนต์หมู่ทำนองสรภัญญะ โรงเรียนได้นำนักเรียนเข้ากิจกรรมโครงการ สร้างภาพลักษณ์ไทยจังหวัดแพร่ ประจำปี 2551 โดยสำนักงานสภาวัฒนธรรม จังหวัดแพร่ ร่วมกับ สภาวัฒนธรรมอำเภอสูงเม่น สภาวัฒนธรรมตำบลดอนมูล องค์การบริหารส่วนตำบลดอนมูล และวัดวุฒิมงคล (วัดร้องแหย่ง) ในการแข่งขันสวดมนต์หมู่ทำนองสรภัญญะ ในวันที่ 1 สิงหาคม 2551ได้รับรางวัลชนะเลิศการแข่งขันสวดมนต์หมู่ทำนองสรภัญญะ โล่รางวัลรองชนะเลิศ อันดับที่ 2 การแข่งขันทักษะวิชาการด้านพระพุทธศาสนา เนื่องในวันมาฆบูชา ประจำปี 2549 ในการดำเนินงานโครงการโรงเรียนวิถีพุทธ โรงเรียนได้ส่งนักเรียนเข้าร่วมกิจกรรมตอบปัญหาธรรมะ โดยได้รับโล่รางวัลรองชนะเลิศ อันดับที่ 2การแข่งขันทักษะวิชาการด้านพระพุทธศาสนา เนื่องในวันมาฆบูชา ประจำปี 2549โรงเรียนพุทธโกศัยวิทยา14 กุมภาพันธ์ 2549 เกียรติบัตรโรงเรียนส่งเสริมสุขภาพระดับทอง ในการดำเนินงานโครงการโรงเรียนส่งเสริมสุขภาพ ตั้งแต่ปี พ.ศ 2547 - ปัจจุบันโรงเรียนได้รับเกียรติบัตร รับรองมาตรฐานโรงเรียนส่งเสริมสุขภาพ ดังนี้ ในวันที่ 25 ตุลาคม 2548 โรงเรียนรับเกียรติบัตร รับรองมาตรฐานโรงเรียนส่งเสริมสุขภาพ ระดับ ทอง จากนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดแพร่ ในวันที่ 11 มกราคม 2551 โรงเรียนรับเกียรติบัตร รับรองมาตรฐานโรงเรียนส่งเสริมสุขภาพ ระดับ ทอง จากอธิบดีกรมอนามัย เกียรติบัตรชนะเลิศ โครงการธนาคาร ขยะรีไซเคิล โรงเรียนเข้าร่วมการประกวดโครงการธนาคาร ขยะรีไซเคิลของสำนักงานเทศบาลตำบลช่อแฮ ประจำปี 2551รับรางวัลในวันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม 2551 ที่ สำนักงานเทศบาลตำบลช่อแฮ ผู้รับผิดชอบโครงการ นางวีณารัตน์ พรมมา สารประชาสัมพันธ์ โรงเรียนบ้านป่าแดง (วันรัตตวิทยา) Email mailto:-padangschool@hotmail.com ฉบับแนะนำเว็บไซต์ และรางวัลที่ได้รับ เว็บไซต์โรงเรียนบ้านป่าแดง (วันรัตตวิทยา) http://www.thai-school.net/wanarat sounboonblogger http://sounboonblog.blogspot.com/